วิธีล้างยางมะตอย

1.ครีมทำความสะอาดอเนกประสงค์:

• ทาครีมให้ทั่วบริเวณที่เปื้อนยางมะตอย จากนั้นเช็ดออกด้วยผ้าเปียกหมาดหรือแปรงอ่อน
• ใช้ผ้าแห้งเช็ดออก และล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อย

2.น้ำมันอเนกประสงค์:

• ฉีดพ่นน้ำมันลงบนบริเวณที่ยางมะตอยเกาะอยู่
• ใช้ผ้าหรือฟองน้ำถูให้คราบละลาย แล้วเช็ดด้วยผ้าแห้งอีกครั้ง
• ชะล้างด้วยน้ำเปล่าเป็นอันจบขั้นตอน

3.ดินน้ำมันขจัดคราบและเนยถั่ว:

• นำดินน้ำมันและเนยถั่วผสมกัน แล้วป้ายลงบนคราบยางมะตอย
• ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ขัดบริเวณที่มียางมะตอยจนยางมะตอยหลุดออก

4.สเปรย์สำหรับล้างยางมะตอย:

• ฉีดสเปรย์ไปที่บริเวณคราบยางมะตอย
• ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ถูบริเวณดังกล่าวจนยางมะตอยหลุดออกหมด แล้วล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง

การเลือกวิธีการล้างยางมะตอยขึ้นอยู่กับความสะดวกและวัสดุที่มีอยู่ การปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้จะช่วยให้การล้างยางมะตอยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

คำแนะนำ

ควรระวังการใช้สารเคมีที่มีความเข้มข้นสูง เนื่องจากอาจทำให้เกิดการสึกกร่อนของวัตถุได้ ดังนั้นควรทดลองใช้น้ำยาล้างจานหรือน้ำยาล้างสีรถยนต์ในบริเวณที่ไม่สำคัญก่อน และตรวจสอบว่าไม่ทำให้เกิดความเสียหายก่อนที่จะล้างยางมะตอยอย่างเต็มที่

ถนนยางมะตอย กับ ถนนคอนกรีต แตกต่างกันอย่างไร

ถนนลาดยางและถนนคอนกรีตมีความแตกต่างกันหลายประการ ดังนี้ :

วัสดุที่ใช้:

• ถนนลาดยาง: ใช้ยางมะตอยเป็นสารยึดเหนี่ยวที่มาจากการกลั่นน้ำมันดิบ ผสมกับวัสดุมวลรวม
• ถนนคอนกรีต: ใช้ซีเมนต์เป็นสารยึดเหนี่ยว ผสมกับหิน ทราย และน้ำ

ความทนทาน:

• ถนนลาดยาง: มีความยืดหยุ่นสูง สามารถปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงของพื้นผิวได้ดี แต่มีอายุการใช้งานสั้นกว่าและต้องการการบำรุงรักษาบ่อยครั้ง
• ถนนคอนกรีต: มีความทนทานสูง อายุการใช้งานยาวนานกว่า แต่มีความแข็งและอาจเกิดการแตกร้าวได้ง่าย

ค่าใช้จ่าย:

• ถนนลาดยาง: มีค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างต่ำกว่าและสามารถเปิดใช้งานได้เร็วกว่า
• ถนนคอนกรีต: มีค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างสูงกว่า แต่มีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาต่ำกว่าในระยะยาว

การบำรุงรักษา:

• ถนนลาดยาง: ต้องการการบำรุงรักษาบ่อยครั้ง เช่น การปูยางมะตอยทับใหม่
• ถนนคอนกรีต: ต้องการการบำรุงรักษาน้อยกว่า แต่การซ่อมแซมอาจใช้เวลานานกว่า

สภาพอากาศ:

• ถนนลาดยาง: เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิสูง เนื่องจากมีความยืดหยุ่น
• ถนนคอนกรีต: เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีการใช้งานหนักและมีการจราจรหนาแน่น

การเลือกใช้ถนนลาดยางหรือถนนคอนกรีตขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น งบประมาณ สภาพอากาศ และปริมาณการจราจร

การใช้ยางมะตอยในอุตสาหกรรมถนน

ยางมะตอยเป็นปิโตรเลียมรูปแบบเหนียว สีดำ กึ่งแข็งที่ใช้ยึดมวลรวมเข้าด้วยกัน เป็นวัสดุสำคัญในอุตสาหกรรมการก่อสร้างถนนเนื่องจากสามารถประยุกค์ใช้งานได้หลากหลาย มีความทนทาน และความคุ้มค่า เพื่อใช้ก่อสร้างผิวถนน ทางรถ ทางเดิน และลานจอดรถ

วิธีนำยางมะตอยไปใช้

การนำยางมะตอยไปใช้งานในอุตสาหกรรมก่อสร้างถนนมีหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับความต้องการและสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน โดยรูปแบบที่พบบ่อยมีดังนี้

1. ผิวถนนลาดยางมะตอย (Asphalt Concrete Pavement) คือ การผสมยางมะตอยกับวัสดุมวลรวม ด้วยวิธีการผสมแบบร้อน อาจใช้ในการก่อสร้างถนนใหม่หรือการซ่อมบำรุงก็ได้ เหมาะกับผิวจราจรทางหลวง ลานจอดรถ สนามบิน
2. ใช้เพื่อเตรียมพื้นทาง (Preparation Surface) : การเตรียมพื้นทางมี 2 รูปแบบ คือการทำไพรม์โค้ทบนพื้นทางหินคลุกและการทำแทคโค้ทบนผิวทางเดิม โดยใช้ยางมะตอยแบบเหลว (Liquid Asphalt) และพ่นสเปรย์ลงไปตามวัตถุประสงค์ดังกล่าว
3. การฉาบเพื่อบูรณะบำรุงผิวทาง (Micro Surfacing) คือ การใช้ยางมะตอยน้ำ (Asphalt Emulsion) ผสมกับมวลรวมละเอียดด้วยกระบวนการที่ไม่ใช้ความร้อน ใช้สำหรับซ่อมแซมความเสียหายของผิวจราจร ที่มีความเสียหายอันไม่เกิดจากความเสียหายจากโครงสร้างทาง

ข้อควรระวังสำหรับยางมะตอยบนพื้นถนน

1. หลีกเลี่ยงการให้ความร้อนสูงบนพื้นถนน เช่น การก่อกองไฟ เพราะจะทำให้เกิดการไหม้ของยางมะตอยและส่งผลให้ผิวจราจรเกิดความเสียหาย
2. หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารทำละลาย เช่น น้ำมัน เพราะจะทำให้ยางมะตอยอ่อนตัวและเกิดการหลุดร่อนของผิวจราจร
3. วัสดุเศษดิน เศษทราย บนผิวจราจรอันเกิดจากการทำตกหล่นหรือติดมากับล้อของผู้ใช้รถ เพราะจะทำให้ผิวจราจรสูญเสียความสามารถในการต้านทานการลื่นไถล

ข้อดีของการใช้ยางมะตอย

1. ยางมะตอยมีราคาถูกกว่าคอนกรีต ใช้ระยะเวลาการก่อสร้างสั้นและเปิดให้สัญจรได้เร็วกว่าถนนคอนกรีต
2. ถนนลาดยางมะตอยให้พื้นผิวที่เรียบ ทนทานต่อการจราจรหนาแน่นและสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย
3. ถนนลาดยางมะตอยดูแลรักษาและซ่อมแซมได้ง่ายกว่าเมื่อเทียบกับวัสดุอื่น

ยางมะตอยถุง

ยางมะตอยถุง หรือ ยางมะตอยสำเร็จพร้อมใช้งาน ประกอบด้วยยางมะตอยน้ำคุณภาพสูง ผสมกับวัสดุมวลรวมที่คัดสรรขนาดเป็นอย่างดีตามมาตรฐานอุตสาหกรรม ทิปโก้พรีมิกซ์ ใช้สำหรับซ่อมหลุม หรือปิดผิวทางเดิน ซ่อมแซมพื้นผิวถนนแบบชั่วคราวทั้งถนนแอสฟัลต์คอนกรีต (Asphalt Concrete) และถนนคอนกรีตตามลักษณะพื้นที่ต่างๆ เช่น ถนน ทางเท้า ทางเดิน ขอบถนน ทางด่วน ที่จอดรถ ถนนที่อยู่อาศัย และทางลาดแบบชั่วคราว

ทิปโก้พรีมิกซ์ 1 ถุง ประกอบด้วย หินกรวดคละขนาดผสมกับแอสฟัลต์อิมัลชันซึ่งเพียงพอสำหรับงานซ่อมหลุมบ่อขนาด 0.25 ตร.ม. และมีความลึก 5 ซม. (หรือ 4 ถุงสำหรับเติมหลุมขนาด 1 ตร.ม.ที่ความลึก 5 ซม.)

ข้อดี และประโยชน์

1. เหนียวแน่น ทนทาน ไม่หลุดร่อน
2. ได้มาตรฐาน มอก. 2916-2561 เกรด 4
3. ไม่ต้องใช้ความร้อน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
4. ใช้อุปกรณ์ง่ายๆ เช่น จอบ เสียม
5. ทำได้ด้วยตนเอง ไม่ต้องใช้เครื่องจักร

วิธีใช้งานยางมะตอยถุง

1. ทำความสะอาดพื้นผิวให้สะอาด
2. ปรับระดับพื้น หรือตกแต่งหลุมที่จะซ่อมให้มีขอบ
3. เทยางมะตอยทิปโก้พรีมิกซ์ ลงในพื้นที่ที่จะปรับระดับ หรือซ่อมหลุม
4. ใช้จอบ พลั่ว บดอัดให้แน่น

วิธีการเก็บรักษา

• กรณีที่ใช้สินค้าไม่หมด ปิดปากถุงให้สนิท และเก็บไว้ภายในอาคารที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก สามารถเก็บไว้ใช้งานได้นานถึง 3 เดือน
• ข้อแนะนำการกำจัดภาชนะบรรจุผลิตภัณฑ์ ควรนำเศษวัสดุออกจากภาชนะบรรจุผลิตภัณฑ์ให้หมด ก่อนส่งทำลายภาชนะบรรจุผลิตภัณฑ์ในระบบกำจัดขยะตามข้อบังคับท้องถิ่น

คำแนะนำด้านความปลอดภัย

• หากสัมผัสผิวหนัง ล้างออกด้วยสบู่และน้ำปริมาณมาก
• หากเข้าตา ล้างด้วยน้ำ และหากมีคอนแทคเลนส์ให้ถอดแก และเปิดเปลือกตาให้กว้าง ให้น้ำไหลผ่านอย่างน้อย 15 นาที และนำส่งแพทย์ทันที

ยางมะตอยน้ำ หรือ แอสฟัลต์อิมัลชัน

ยางมะตอยน้ำ คือ ยางมะตอยเหลวที่มีส่วนผสมหลักสามชนิด คือ ยางมะตอย น้ำ และอิมัลซิไฟเออร์ (emulsifier) โดยส่วนประกอบเหล่านี้ถูกนำมาผ่านอุปกรณ์ที่เรียกว่าคอลลอยด์มิลล์ (colloid mill) ซึ่งจะเฉือนยางมะตอยให้เป็นอนุภาคขนาดเล็ก อิมัลซิไฟเออร์ซึ่งเป็นสารปรับสภาพผิวของยางมะตอย ช่วยให้อนุภาคของยางมะตอยลอยตัวอยู่ในน้ำรวมกันแบบแขวนลอยที่มีเสถียรภาพและใช้ควบคุมระยะเวลาการแยกตัวของยางมะตอยน้ำ เมื่อนำไปใช้งาน น้ำที่ผสมอยู่ในแอสฟัลต์อิมัลชันจะระเหยและปล่อยให้ยางมะตอยก่อตัวเป็นฟิล์มบาง ๆ ปิดผิวมวลรวมหรือพื้นผิวถนนอย่างต่อเนื่อง

คุณสมบัติหลัก ของยางมะตอยในแอสฟัลต์อิมัลชัน คือ ช่วยการยึดเกาะและเพิ่มคุณสมบัติป้องกันการซึมผ่านของน้ำบนผิวทาง ซึ่งสามารถใช้ทำงานในอุณภูมิปกติสำหรับการก่อสร้าง และบำรุงรักษาถนนโดยจะผสมกับวัสดุมวลรวมหรือไม่ก็ได้

ประเภทของยางมะตอยน้ำ

1. แยกตัวเร็ว
   • CRS-1 ใช้สำหรับงานแทคโคท (Tack Coat)
   • CRS-2 ใช้สำหรับงานเซอร์เฟสทรีตเมนต์ชั้นเดียว (Single Surface Treatment) ผิวทางชั้นแรกของเคพซีล (Cape Seal) เซอร์เฟสทรีตเมนต์สองชั้น (Double Surface Treatment) และงานแทคโคท (Tack Coat)
2. แยกตัวเร็วปานกลาง
   • CMS-2 และ CMS-2h ใช้ทำยางมะตอยผสมสำเร็จ งานปะซ่อมผิวทางยางมะตอย Cold Mix หรือวัสดุผสมเย็น
3. แยกตัวช้า
   • CSS-1 ใช้สำหรับงานไพรม์โคท (Prime Coat)
   • CSS-1h ใช้สำหรับงานสเลอรี่ซีล (Slurry Seal) งานผิวชั้นที่สองของเคพซีล (Cape Seal) ฟ๊อกสเปรย์ (Fox Spray) ไพรม์โคท (Prime Coat) และงานปรับปรุงคุณภาพชั้นทาง
   • EAP ใช้สำหรับงานไพรม์โคท (Prime Coat) ตามมาตรฐาน ทล.-ก. 410/2557

คำแนะนำด้านความปลอดภัย

• หลีกเลี่ยงการสูบถ่ายผ่านปั๊มที่มีแรงดันสูง
• หลีกเลี่ยงการกวนอย่างรุนแรง
• หลีกเลี่ยงการปนเปื้อนจากน้ำมันหรือสารเคมี ไม่ควรจัดเก็บในภาชนะที่มีสารต่างชนิดกัน
• ถังบรรจุผลิตภัณฑ์ต้องแห้ง และสะอาด ไม่ปนเปื้อนน้ำมันหรือน้ำ เพราะอาจทำให้คุณสมบัติของผลิตภัณฑ์เปลี่ยนไป
• ควรจัดเก็บผลิตภัณฑ์แต่ละชนิดแยกถังออกจากกัน โดยมีชื่อและชนิด กำกับไว้อย่างชัดเจน
• ควรสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันที่เหมาะสม (รวมถึงถุงมือและหน้ากากกันกระเด็น)